UFABETWIN ท่ามกลางเสียงปรบมือ จากผู้ชมท้องถิ่นชาวสเปน ที่มีให้ต่อ “โสมรัศมี ไชยสุยะ”
นักมวยหญิงชาวไทยที่บุกไปชนะนักชกเจ้าถิ่นได้อย่างน่าประทับใจ ทันที่เกมจบลง “โสมรัศมี” นักสู้หญิงจากอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเอา ชุดผ้าทอชนเผ่าปกาเกอะญอ ที่เตรียมไว้มาสวมใส่ เพื่อประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือใคร ? และต้นกำเนิดของเธอมาจากไหน ?
นั่นคือบทบันทึกของ “โสมรัศมี” นักมวยชาติพันธุ์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่จะได้ขึ้นชกที่เวทีราชดำเนิน ในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์
สาวน้อยจากดอยสูง โสมรัศมี ไชยสุยะ มีชื่อเล่นว่า “ผึ้ง” เกิดและโตที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวของเธอดั้งเดิมประกอบอาชีพรับจ้าง จนคุณพ่อของโสมรัศมีมาเสียลงชีวิตลงในเวลาต่อมา คุณแม่จึงกลับมาทำเกษตรท้องถิ่นบนพื้นราบสูง
จุดเริ่มต้นในเส้นทางบนผืนผ้าของโสมรัศมีเกิดขึ้นตอนอายุได้ 12 ปี เมื่อเธออยากได้โทรศัพท์มือถือแต่ไม่ต้องการรบกวนผู้ปกครอง โสมรัศมีจึงคิดหาวิธีว่าทำอย่างไรจึงจะหาเงินมาได้ ?
ความคิดแวบแรกของโสมรัศมีคือ จะชกมวยเพื่อหาเงินซื้อโทรศัพท์มือถือ เธอจึงไปฝึกมวยที่ค่ายเกียรติเยาวนา ของ อาจารย์อุทัย เยาวนา โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้
เธอใช้เวลาฝึกอยู่ประมาณหนึ่งเดือนจึงได้รายการชก เธอต่อสู้กับคู่ต่อสู้ชนิดทุ่มสุดใจจนสามารถเอาชนะคะแนนคู่ชกมาได้ ต่อไปนี้จะทำอะไรก็ขอให้บอกพ่อแม่ด้วย และพ่อและแม่ก็จะไม่ปิดกั้นในเรื่องการชกมวยของเธอ
หลังผ่านการชกครั้งแรกเธอก็ได้ค่าตัวมา 500 บาท แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ “โสมรัศมี” ซื้อโทรศัพท์มือถือได้อย่างใจ นั่นจึงทำให้เธอเริ่มคิดถึงการซ้อมมวยอย่างจริงจังเพื่อเก็บเงินซื้อโทรศัพท์มือถือให้ได้
เธอขึ้นชกอีก 5 ครั้ง มีแพ้ชนะสลับกันไปจนได้เงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือสมความตั้งใจ ความคิดแรกของเธอเมื่อได้เงินครบก็คิดว่าคงจะพอแล้วสำหรับการชกมวย แต่เมื่อมีเวลาว่างจึงได้มาไตร่ตรองดูอีกทีว่า ตัวเธอเองนั้นสามารถหาเงินได้เอง และจะเป็นการช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานรับจ้างในตัวเมืองเชียงใหม่
โสมรัศมีจึงเริ่มจริงจังกับการซ้อมมากขึ้น จนได้มีโอกาสขึ้นชกอีกประมาณ 30 ครั้ง
ต่อมาเมื่อเธอศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงเริ่มมีความอยากที่จะเปิดหูเปิดตา อยากจะไปเห็นโลกกว้างมากขึ้น รวมถึงอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด จึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ที่อำเภอแม่ริม
ที่นี่มี มี อาจารย์ณรงค์ ฟักตั้ง เป็นผู้ดูแลเรื่องการฝึกซ้อมมวย พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้ชื่อในการชกจาก “น้องผึ้ง” มาเป็น “โสมรัศมี ศส.เชียงใหม่”
และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งแข่งตามสถานที่ต่าง ๆ มากมาย โดยเธอได้เจอกับคู่ชกทั้งชาวไทยและต่างชาติจนเสริมกระดูกให้เธอแกร่งขึ้นขึ้นเรื่อย ๆ ไฟต์ที่สำคัญของ โสมรัศมี คือการได้แชมป์เวทีมวยท่าแพ ในพิกัด 50 กิโลกรัม
กรุงเทพ-ดูไบ-บาร์เซโลน่า ในที่สุดเวลาที่เธอรอคอยมานานแสนนานก็มาถึง นั่นคือการเข้าไปชกที่กรุงเทพฯ โดยเธอได้รับการติดต่อให้ไปชกในรายการ มวยไทย
ก่อนการชกครั้งนั้นเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก เนื่องจากเป็นการเข้ามาสู่เมืองหลวงเป็นครั้งแรกในชีวิตจึงทำให้ฟอร์มผิดไปหมด แถมยังมีปัญหาเรื่องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทั้งเรื่องสภาพอากาศและอาหารการกิน
หลังจากนั้นโสมรัศมีได้กลับมาชก ที่เวทีลุมพินีอีกครั้งในฐานะคู่เอก และฟอร์มการชกของเธอก็ไปเข้าตาผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาคมมวยไทยสมัครเล่น จึงติดต่อผ่านทาง อ.ณรงค์ เพื่อขอให้เธอไปชกมวยไทยสมัครเล่นในนามทีมชาติไทย ในรายการมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก หรือ ไอเอฟเอ็มเอ ชิงแชมป์โลก 2022 ที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ก่อนที่ โสมรัศมี จะคว้าเหรียญเงินในรุ่น 48 กก. หญิงมาครอง เธอรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจในตัวเองมากที่ได้รับใช้ชาติ ซึ่งการชกไฟต์แรกในศึกชิงแชมป์โลกมวยไทยสมัครเล่น เธอยังคงมีความตื่นเต้นเหมือนเดิม แถมยังมีอุปสรรค ในเรื่องที่ต้องคุมน้ำหนักตลอดการแข่งขัน
แต่ก็รวบรวมสมาธิและคิดว่าต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ท้ายสุดก็ได้เหรียญเงินกลับมา แต่ที่มากกว่านั้นคือการได้รับมิตรภาพกลับมาจากทั้งทีมงานและเพื่อนชาวต่างชาติ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้รับ การติดต่อให้ไปชก ที่ประเทศสเปน
สามารถเอาชนะคู่ชกได้ แต่สิ่งที่ทำให้ชาวโลกจดจำเธอได้คือการที่เธอสวมชุดของเผ่าปกาเกอะญอ ซึ่งเป็นชาติกำเนิดเผ่าพันธุ์ของเธอ
นักมวยหญิงชาติพันธุ์คนแรกบนเวทีมวยราชดำเนิน ปัจจุบัน โสมรัศมี ซ้อมที่ค่ายมานพยิม โดยใช้ชื่อในการชกว่า “โสมรัศมี มานพยิม” ควบคู่ไปกับการศึกษาต่อชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย
รวมถึงได้ถูกเลือกเป็น 1 ใน 8 นักมวยหญิงชุดแรกในประวัติศาสตร์ที่จะได้ลงแข่งขันบนเวทีมวยราชดำเนิน ในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ รุ่น 112 ปอนด์หญิง ซึ่งเธอเป็นหนึ่งเดียวจากทั้งหมด 8 คนที่เป็นชาวชาติพันธุ์
นั่นจึงทำให้โสมรัศมีกำลังกลายเป็นนักมวยไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงหญิงคนแรกที่จะได้ชกที่เวทีมวยอันทรงเกียรติแห่งนี้ หลังก่อนหน้านี้โสมรัศมีเคยได้รับเลือกให้เป็นชกคู่เอกที่เวทีมวยลุมพินีมาแล้ว
“หนูรู้สึกเหมือนฝันเป็นจริงที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ อาร์ดับเบิ้ลยูเอส เนื่องจาก 77 ปีที่ผ่านมา เวทีมวยราชดำเนินยังไม่เคยอนุญาตให้นักมวยหญิงขึ้นมาต่อยที่นี่”
“ต้องขอขอบคุณเวทีราชดำเนินที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้แสดงความสามารถเหมือนกับที่ผู้ชายได้รับโอกาสมาก่อนหน้านี้”
“ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้เหมือนกับความฝัน ส่วนตัวหนูไม่ได้กลัวใคร ก็คงซ้อมเต็มที่เพื่อให้มีพละกำลังพร้อมสำหรับการสู้กับทุกคน อยากแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่านักชกชาติพันธุ์ก็มีความสามารถค่ะ”
โดยไฟต์แรก โสมรัศมี จะแข่งขันวันที่ 12 สิงหาคม 2565 พบกับ เดซิรี่ โรวิร่า คู่ปรับเก่าชาวสเปน ซึ่งเธอเคยชกชนะเดซิรี่มาแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้ว่าสไตล์การชกของเดซิรี่จะเป็นมวยเดิน ดับเครื่องชน บู๊ดุดัน แต่โสมรัศมีก็ยังมั่นใจว่าเธอจะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
“หนูมีความตั้งใจอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ อาร์ดับเบิ้ลยูเอสให้ได้ เพราะอยากจะทำให้คุณแม่ภูมิใจในตัวหนูอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ หนูเพิ่งเก็บเงินจากน้ำพักน้ำแรงมาเพิ่งปลูกบ้านให้คุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวได้อยู่อาศัย แม้ว่าวันนี้คุณพ่อจะไม่อยู่แล้วแต่ก็เชื่อว่าคุณพ่อยังคงเฝ้ามองดูความสำเร็จของหนูอยู่”